การใช้ลายมือชื่อดิจิตอลมีข้อดีคือสามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ส่งข้อมูลเป็นตัวจริง (Authentication) เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับคู่ค้าว่าทำธุรกิจกับบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง คู่ค้ายินดีที่จะทำการค้ากับเว็บไซต์ที่มีการใช้ลายมือชื่อดิจิตอลมากกว่าเว็บไซต์ที่ไม่มีการใช้ลายมือชื่อดิจิตอลที่สามารถตรวจสอบได้ว่าข้อมูลที่ได้รับมาไม่ได้มีการดัดแปลงหรือแก้ไข (Integrity)

เพื่อให้คู่ค้าสามารถตรวจสอบได้ว่าข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลจริง ๆไม่ได้มีคนอื่นเปิดอ่านหรือดัดแปลง ทำให้เกิดความสบายใจและความเชื่อถือในการซื้อขายปกป้องข้อมูลให้เป็นความลับจากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต(Confidentiality) และปกป้องสิทธิจากบุคคลที่จงใจจะทำผิดสัญญา (Nonrepudiation)

)ในกรณีที่ผู้ส่งทำสัญญาโดยมีการใช้ลายมือชื่อดิจิตอลแล้ว และผู้ส่งจะทำผิดสัญญาโดยบอกว่าไม่ได้ส่งข้อมูลและทำสัญญากับผู้รับ ผู้รับสามารถใช้ลายมือชื่อดิจิตอลเป็นหลักฐานในการเอาผิดทางกฎหมายได้ในต่างประเทศก็ได้มีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับลายมือชื่อดิจิตอล 

และสามารถนำลายมือชื่อดิจิตอลมาฟ้องร้องในศาลได้ และบริษัทส่วนใหญ่ที่ทำการค้าอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันก็ได้ให้ความสำคัญกับลายมือชื่อดิจิตอล สรุปหากท่านต้องการให้บริษัทของท่านอยู่รอดในโลกการค้าดิจิตอลแล้วการนำลายมือชื่อดิจิตอลมาใช้งานเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 

ระบบการจัดทำและนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) มีความจำเป็นต้องใช้งานร่วมกับ ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Certificate Authority) เพื่อให้ผู้ใช้งานเกิดความมั่นใจปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องจัดหาใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้ในการลงลายเซ็นดิจิตอล (Digital Signature) ที่ข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งทำรายการต่าง ๆ เพื่อความมั่นใจในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นการยืนยันตัวตนและรับรองความถูกต้องของข้อมูล 

ผู้เขียน นายสุรภัฎ พงษ์สุวรรณ์

วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2564